รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “พี่แอล” ลูกกตัญญูที่ดูแลพ่อแม่วัยชราป่วยติดเตียงทั้ง 2 คน ขณะที่ตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็ป่วยถูกโรคมะเร็งเล่นงาน นอกจากดูแลบุพการีแล้ว เธอยังปลูกผักปลอดสารพิษและทำสลัดขาย เพื่อให้พอมีรายได้ดูแลพ่อแม่ แม้จะน้อยนิดก็ตาม
“พี่แอล” อภิญญา พูลมี สาวเมืองสุพรรณฯ ดูแลพ่อแม่วัย 91 และ 92 ที่ป่วยติดเตียงมานานนับสิบปีแล้ว แม้พ่อแม่จะมีลูก 10 คน แต่เสียชีวิตไปแล้ว 6 คน ส่วนคนที่เหลือ ก็มีเพียงเธอคนเดียว ที่ยังไม่มีครอบครัว เธอจึงเป็นกำลังหลักในการดูแลพ่อแม่
พี่แอลทำงานหนักตั้งแต่เด็ก เรียนแค่ ป.4 ก็ออกมาช่วยพ่อแม่ทำนาและเลี้ยงน้อง เมื่อโตขึ้น เริ่มเห็นว่า อาชีพทำนา ไม่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว เธอจึงตัดสินใจเข้ามาทำงานรับจ้างในกรุงเทพฯ เพื่อหาเงินส่งให้พ่อแม่
“อายุ 20 เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ จากทำรองเท้า ก็ไปเย็บเสื้อใน อยู่กรุงเทพฯ 13 ปี ก็ไม่ก้าวหน้า จู่ๆ เพื่อนชวนไปทำงานเมืองนอก …ก็เลยลองไปไต้หวัน (ถาม-ไปทำอะไรที่ไต้หวัน?) เย็บผ้า เย็บอาดิดาส ไนกี้ โปโลพวกนี้”
ะหว่างทำงานอยู่ไต้หวัน พี่แอลส่งเงินให้พ่อแม่ทุกเดือน หลังทำงานได้ 2 ปี เธอได้กลับมาบ้าน ก่อนกลับไปทำงานอีกรอบ และเมื่อได้กลับบ้านอีกครั้ง ก็พบปัญหาให้พี่แอลต้องนำเงินที่มีมาไถ่บ้านคืนให้พ่อแม่!!
“พี่ต้องมาไถ่บ้าน มาใช้หนี้ไถ่โฉนดออกมารวมแล้วประมาณ 2.8 แสน (ถาม-แล้วเป็นหนี้เพราะอะไร?) น้องสาวคนเล็ก เขามาหลอกพ่อหลอกแม่ เป็นโน่นเป็นนี่ แกก็จะไปหยิบยืมเงินชาวบ้านมา …แล้วแกก็เลี้ยงลูกของน้องสาวคนเล็ก 2 คน ผู้ชายคน ผู้หญิงคนหนึ่ง”
หลังเงินหมดไปกับการไถ่บ้าน พี่แอลตัดสินใจกลับไปทำงานที่ไต้หวันอีกครั้ง จากนั้นก็ไปๆ กลับๆ ก่อนที่ครั้งสุดท้าย บริษัทจะเจ๊ง ทำให้เธอตัดสินใจกลับประเทศเร็วกว่ากำหนดเมื่อปี 2551 พร้อมกับเงินที่มีกลับมาแค่ 5 หมื่นบาท และสิ่งที่ทำให้พี่แอลคาดไม่ถึงเมื่อกลับจากไต้หวันรอบสุดท้ายก็คือ บ้านที่เธอเคยไถ่คืนมาแล้ว กลับถูกเอาไปขายอีกครั้ง!!
“เหมือนน้องมาหลอกพ่อกับแม่ เขาไม่ได้เก็บเงินไว้ให้เราไถ่ที่ พอหันหลังกลับไป ก็เอาที่ที่เราไถ่บ้านอีกครั้งหนึ่ง เอาไปเข้าอีกรอบ (ถาม-เท่าไหร่?) 3.6 แสน รอบนี้พี่ตกงานกลับมา ที่พี่ไถ่บ้านพี่คืนไม่ได้ รอบนี้แหละ”