หนิง เล่าประสบการณ์สามีโดนทำของ
เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงสาวที่ขึ้นชื่อเรื่องการปราบกิ๊กเลยละค่ะ สำหรับ นักแสดง-ผู้จัดละครสาวชื่อดังอย่าง “หนิง ปณิตา” เพราะมีวีรกรรมและเรื่องเล่าเกี่ยวกับการจับกิ๊กเยอะมาก ล่าสุด ก็มีโอกาสได้มาร่วมพูดคุยในรายการ Fake or Not?
ซึ่งก็ได้พูดคุยกันในหัวข้อที่ว่า กิ๊กสามีทำของใส่ จนหนิงต้องทำกลับ ? ซึ่งหนิงก็ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง พร้อมกับบอกเลยว่าไม่ได้ทำของกลับกิ๊กสามีนะแต่เรื่องที่โดนทำของใส่นั้นเรื่องจริง จะว่ายังไงบ้างนั้นไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
“เมื่อก่อนหนิงกับจินไปซื้อคอนโดอยู่ที่ทองหล่อ แล้วปรากฏว่าพอมีเรื่องมีราว มีกงมีกิ๊กอะไรบ่อยๆ ที่บ้านก็เลยตามให้กลับมาอยู่บ้านเหอะ คือหนิงจินแยกไปอยู่ที่คอนโดไง เราก็เชื่อฟังผู้ใหญ่จึงกลับมาอยู่ที่บ้าน
ปรากฏว่าพอมาอยู่บ้านไอ้ความไม่ไว้ใจอะไรบางอย่างของเรา มันมีกลิ่น เราเลยแอบติดกล้องวงจรปิด เป็นกล้องซ่อนเล็กๆที่ไม่สามารถจะเห็นได้ว่าเราซ่อนไว้ที่ไหน ปรากฏว่ากลับบ้านวันแรก เราก็เปิดไอแพดดู ซึ่งพากันเข้าไปในคอนโดจ้า”
“ความเป็นเมียนี่นะเวลาจับอะไรได้อย่าพึ่งอาละวาดเก็บข้อมูลไว้ก่อน ก็รู้แล้วโอเคมีผู้หญิงไปที่คอนโด เราก็เก็บไว้ไปเรื่อยๆให้อยู่หมัดทีเดียว จนกระทั่งวันนึงรู้สึกว่าไม่ได้ล่ะฉันจะต้องเดินเข้าไป ยามตัวแสบเหมือนไปซื้ออะไรกับยามเอาไว้อะ ยามคือหนอนบ่อนไส้ตอนที่เราขึ้น ทางนั้นสวนลง”
“จริงๆซ้อมบทพูดไว้แล้วปรากฏว่าเปิดเข้าไป ไม่มีใครอยู่ ไม่อยู่ทั้งห้อง เราก็เดินหาเลย แต่สิ่งที่รู้สึกไม่โอเคคือคอนโดมีกลิ่น หนิงก็มุดลงไปใต้เตียง สิ่งที่เจอคือกางเกงใน กางเกงในซึ่งมีแผ่นอนามัยติดอยู่ ผ้าอนามัยที่แห้งๆกรังๆอยู่ใต้เตียง”
“หนูคิดว่าเขาทำของ หนูก็เลยไปหาพระไปแก้ เพราะช่วงนั้นคุยกันไม่รู้เรื่องด้วยหนูเชื่อว่าโดนทำของสุดท้ายก็เลยไปแก้ของ หนูก็เลยทำกลับไปเลย อีกเดือนนึงหลังจากที่หนูทำ รถคว่ำหน้าได้แผล แล้วก็สุดท้ายเขาก็เลิกกัน”
คุณทำของใส่กิ๊กของสามีเป็นเรื่อง Fake or not ?
“และเรื่องที่หนิงเล่าเป็นเรื่อง Fake แต่ว่ามีคนบอกว่าโดน แต่วิธีแก้ตอนนั้นคือไปปฏิบัติธรรม สวดมนต์ และสิ่งที่เจอใต้เตียงนั้นเจอจริงๆ”
เรียกได้ว่าของที่เจอใต้เตียงนั้นเป็นเรื่องจริงค่ะ แต่หนิงไม่ได้ทำของกลับสาวคนนั้น และเลือกที่จะใช้วิธีปฏิบัติธรรม-สวดมนต์แทน ซึ่งถ้าใครได้ติดตามข่าวก็จะเห็นว่าช่วงนึงหนิงไปปฏิบัติธรรมบ่อยมาก
เอาเป็นว่าเรื่องแบบนี้ก็ต้องแล้วแต่วิจารณญาณและความเชื่อของแต่ละคนแล้วละค่ะ แต่ถึงแม้เราจะไม่เคยเจอหรือเคยเห็นก็ไม่สามารถไปตัดสินได้อยู่ดีว่าตกลงแล้วเรื่องแบบนี้มันมีจริงๆไหม
ขอบคุณข้อมูล : Scenario & Rachadalai